ศิลปะการเขียนพู่กันจีน

        
         書法(ซูฝ่า) การเขียนพู่กันจีนมีประวัติความเป็นมายาวนานคู่กัประเทศจีน ถือเป็นศิลปะขั้นสูงหนึ่งในสี่อย่างของชนชาติจีน คือ การเขียนพู่กันจีน การวาดภาพ การบรรเลงเครื่องสาย และการเล่นหมากรุกจีน นอกจากประเทศจีนแล้ว การเขียนพู่กันจีนยังเป็นที่นิยมในหมู่ชาวเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลี เวียตนามและสิงคโปร์ ผู้ที่จะเรียนพู่กันจีนควรมีพื้นความรู้ภาษาจีน เพื่อที่จะรู้วิธีเขียนองค์ประกอบอักษรแต่ละตัวตามลำดับให้เป็น การเขียนพู่กันจีนเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ไม่เพียงสื่อสารความคิดของผู้เขียน ยังแสดงถึงลักษณะเส้นสายที่มีจังหวะการเขียนและองค์ประกอบของตัวหนังสือที่งดงาม บ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของเจ้าของลายมือ และเป็นการฝึกสมาธิที่ดีอย่างหนึ่งอีกด้วย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ศิลปะพู่กันจีน
ที่มา https://favforward.com/talk-about/45953.html
       
      การเขียนพู่กันจีนเป็นศิลปะอันงดงามที่สืบทอดมาแต่โบราณของจีน ศิลปะการเขียนลายเส้นชนิดนี้ใช้พู่กันเป็นอุปกรณ์ในการเขียนออกมาเป็นตัวอักษรจีน มีกำเนิดในสมัยราชวงศ์ซางเมื่อ 3,000 ปีมาแล้ว ศิลปะชนิดนี้ไม่เพียงแต่มีคุณค่าด้านการใช้งานที่กว้างขวาง ขณะเดียวกันยังมีคุณค่าด้านความงามที่ไม่ด้อยไปกว่าศิลปะแขนงอื่น ศิลปะการเขียนพู่กันจีนมีลายเส้นและเค้าโครงที่เรียบง่าย แต่กลับสามารถสะท้อนให้เห็นความคิดอันซับซ้อนและหลากหลายของผู้เขียน ทั้งยังทำให้ผู้ชมได้สัมผัสและดื่มด่ำกับความงามอันเรียบง่ายด้วยศิลปะแขนงนี้ สะท้อนให้เห็นกฎเกณฑ์พื้นฐาน “เอกภาพแห่งความแตกต่าง” ของสรรพสิ่งและยังสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาน อุปนิสัยการเรียนรู้และการเพาะบ่มทางจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของมนุษย์อีกด้วย

แบบตัวอักษรที่ใช้เขียนพู่กันจีน มี 5 แบบคือ


         1. จ้วนซู กำหนดรูปแบบขึ้นมาในสมัยราชวงศ์เฉิน เป็นแบบที่เก่าที่สุดเป็นอักษรที่เน้นความสวยงามและยังใช้ฝึกเขียนจนทุกวันนี้ ตราประทับมักแกะสลักด้วยตัวหนังสือประเภทนี้  
ที่มา http://gg.gg/go5o1
                                                
         2. ลี่ซู นิยมเขียนกันมากในสมัยราชวงศ์ฮั่นตัหนังสือจะออกแป้น ๆ การเขียนเน้นที่การลากหางเป็นเส้นหนา ปัจจุบันใช้ในเรื่องที่เป็นราชการ งานตกแต่งหรืองานศิลปะ

ที่มา http://gg.gg/go5o1
       
       3. เฉ่าซู ลักษณะตัวหนังสือแบบหวัด คำว่า เฉ่า มีหลายความหมาย แปลว่า หญ้า รีบร้อน เร่งด่วน ลวกๆ เราจะเขียนเป็นศิลปะ เรียกว่า ตัวหวัด

ที่มา http://gg.gg/go5o1
      4. สิงซู ลักษณะตัวหนังสือหวัดแกมบรรจง               
  
ที่มา http://gg.gg/go5o1
      5. ข่ายซู ลักษณะตัวหนังสือเป็นลายมือมาตรฐานธรรมดาเรียกว่า ตัวบรรจง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ จ้วนซู
ที่มา http://gg.gg/go5o1


อุปกรณ์

            
             อุปกรณ์ที่ใช้ในการเขียนพู่กันจีน เรียกว่า “เหวินฝางซื่อป่าว” wénfángsìbǎoหรือรัตนะทั้งสี่ในห้องหนังสือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นที่ภาคภูมิใจของชาวจีน"เหวินฝาง"wénfáng ก็คือ"ซูฝาง"shūfáng หรือห้องหนังสือ ชาวจีนสมัยโบราณเรียกอุปกรณ์เครื่องเขียนที่ใช้ในห้องหนังสือสี่ชนิด ได้แก่ พู่กัน หมึก กระดาษและที่ฝนหมึกว่า "เหวินฝางซื่อป่าว"

            1. "ปี่" bǐ ก็คือ "เหมาปี่" máobǐ (พู่กัน) เป็นเครื่องเขียนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของจีน พู่กันมีขนาดต่าง ๆ ส่วนมากด้ามใช้ไม้ไผ่ ถ้าจะประดิษฐ์เป็นของศิลปะก็ใช้หิน ใช้หยก ส่วนที่สำคัญคือส่วนพู่ของพู่กันนิยมใช้ขนต่าง ๆ กันแล้วแต่ความสะดวก ขนาดต่าง ๆ กัน มีขนแกะ ขนกระต่าย ขนของอีเห็น ขนสุนัขป่า พู่กันที่ราคาแพงเขียนได้ละเอียด ทำด้วยขนในหูสุนัขป่า ปัจจุบันอาจใช้วัสดุสังเคราะห์  เนื่องจากทำจากขนสัตว์ต่าง ๆ จึงเรียกเครื่องเขียนชนิดนี้ว่า "เหมาปี่" หรือเครื่องเขียนที่ทำจากขนสัตว์ ในสมัยชุนชิวก็มีการประดิษฐ์ "เหมาปี่" ขึ้นใช้แล้ว

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ พู่กันจีน
ที่มา https://www.gotoknow.org/posts/285598
         
             2. "ม่อ" mò หมายถึงหมึกสีดำที่ใช้ในการเขียนหนังสือหรือวาดภาพ ส่วนใหญ่ทำจากเขม่าควันที่เกิดจากการเผาไม้สน และน้ำมันผสมปั้นให้มีลักษณะเป็นก้อนเป็นแท่ง สำหรับฝนกับที่ฝนหมึก โดยเหยาะน้ำใส่ในแท่นฝนหมึก ปัจจุบันคนชอบใช้หมึกใส่ขวดพลาสติกนำมาเทใส่แท่นฝนหมึก ไม่ต้องเสียเวลามานั่งฝนหมึก

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หมึกจีน
ที่มา https://www.gotoknow.org/posts/285598

             3. "จื่อ" zhǐ หรือกระดาษ กระดาษเป็นหนึ่งในสี่สิ่งประดิษฐ์สำคัญของจีนโบราณ ภายหลังสมัยราชวงศ์ถังและซ่ง ได้มีการผลิต "เซวียนจื่อ" xuānzhǐ ซึ่งเป็นกระดาษที่มีคุณภาพสูงขึ้น เซวียนจื่อ มีคุณสมบัติพิเศษคือ สีกระดาษขาวสะอาด เนื้อกระดาษละเอียด นุ่มและเบา กระจายน้ำหมึกได้สม่ำเสมอและชัดเจน ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย กระดาษก็มีหลายลักษณะ ส่วนมากทำด้วยเยื่อของพืชต่าง ๆ ข้อสำคัญไม่ใช่กระดาษแบบที่เราใช้ เขียนทั่วไป
ที่มา https://www.gotoknow.org/posts/285598

           4."เยี่ยน"yànหรือแท่นฝนหมึกมีความเป็นมายาวนานถึง 5,000 ปี พบครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ฮั่น จากนั้น "เยี่ยน" ก็ค่อยๆ เข้ามามีบทบาทในศิลปะการเขียนตัวอักษรจีนและการวาดภาพแบบโบราณ มักจะใช้หินเนื้อละเอียดในการทำแท่นฝนหมึก นิยมแกะเป็นลวดลายที่สวยงามต่าง ๆ หรือประดิษฐ์เป็นรูปร่าง แต่งนิดหน่อย เหมือนเป็นศิลปะของมันเอง ที่มีชื่อเสียงมากแหล่งหนึ่งอยู่แถวเมืองกวางตุ้ง (กวางโจว)

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แท่นฝนหมึก
ที่มา https://www.gotoknow.org/posts/285598

วิธีจับพู่กัน

           ใช้นิ้วโป้ง นิ้วชี้และนิ้วกลางจับพู่กัน สามนิ้วนี้เป็นนิ้วหลักเวลาเขียน นิ้วนางกับนิ้วก้อยอยู่ด้านล่าง คอยประคองพู่กัน จับพู่กันช่วงกลางด้าม ให้ตัวพู่กันตั้งตรงเป็นเส้นฉากกับโต๊ะเสมอเวลาเขียน

ที่มา http://gg.gg/go5qi

เส้นตัวหนังสือของจีนมีหลักๆดังนี้

1. เป็นจุด



2. เส้นขีดจากซ้ายไปขวา



3. เส้นขีดจากบนลงล่าง



4. เส้นขีดเฉียงจากขวาไปซ้าย



5. ขีดเฉียงจากซ้ายไปขวา



6. ขีดตวัดจากล่างซ้ายขึ้นไปขวา



7. เส้นลากหักมุม




ตัวอย่างตัวหนังสือที่รวมการเขียนเส้นทั้งหมดไว้ในตัวเดียวกัน





            
ลำดับการเขียนเส้น











คลิปวิธีการเขียน


          
        ตัวอักษรจีนเป็นรูปแบบตัวอักษรภาพโดยพื้นฐาน แสดงความหมายโดยถือตัวอักษรที่เขียนตามรูปของสิ่งของต่างๆเป็นพื้นฐาน การเขียนตัวอักษรจีน เป็นศิลปะที่คนจีนชื่นชมมาก และถือว่าเป็นศิลปะชั้นสูง การเขียนพู่กันจีนที่เรียกว่า ซูฝ่า นั้นฝรั่งเรียกว่า calligraphy ที่จริงแล้ว calligraphy หรือการเขียนตัวอักษรก็มีอยู่ในทุกประเทศ แต่ของจีนเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสำคัญมาก อาจเป็นเพราะจีนเขียนตัวหนังสือแบบที่ไม่ได้เป็นระบบอักขรวิธี ไม่ได้มีตัวสระ พยัญชนะ เหมือนภาษาไทย ภาษาอังกฤษมาประสมกัน แต่จะเขียนเป็นรูป แทนสิ่งที่กล่าวถึง และจะมีการผสมของเส้นต่าง ๆ เข้ามาในรูป การเขียนภาษาจีนมีความยาก เพราะไม่สามารถสะกดคำได้ แต่จะต้องจำเป็นตัว ๆ การที่ภาษาจีนเขียนตัวอักษรเช่นนี้อยู่หลายพันปี พู่กันซึ่งเป็นเครื่องมือในการเขียนก็ไม่เหมือนเครื่องมืออย่างอื่น เขียนแล้วไม่แข็ง จะมีความอ่อนนุ่ม และสัมพันธ์กับมือที่จะกดหนักกดเบา มีความรู้สึกจากจิตใจ จากสมอง จนถึงที่มือ เพราะฉะนั้น จึงเป็นเรื่องของศิลปะมากกว่าการเขียนหนังสืออื่น ๆ ทั่วไป เวลาฝึกต้องฝึกตั้งแต่ข้อศอก หัวไหล่ ฝึกกล้ามเนื้อ ข้อมือ


ความคิดเห็น